Hot News 178

Thursday, October 27, 2016

REVO ซ้ำรอย..! VIGO สื่อนอกปล่อยคลิปทดสอบหักเลี้ยวกระทันหันของรถกระบะ 7 ค่าย ปรากฏผล “HILUX FAIL” [มีคลิป]

9:39:00 PM / by khara / in Hot News / with No comments /

ในหลวง เคยสูบพระโอสถมวน (บุหรี่) แต่ทรงเลิกได้ เพราะพสกนิกร

7:29:00 AM / by khara / in Hot News / with No comments /

เพจ รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น ระบุถึงพระราชดำรัส เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2547 เกี่ยวกับภัยของบุหรี่ ใจความว่า อดีต ในหลวง เคยสูบพระโอสถมวน (บุหรี่) แต่ทรงเลิกได้ !

... เพราะท่านต้องการเป็นแบบเยี่ยงอย่างที่ดี แก่พสกนิกร ...
ถ้ามีคนมาถามว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวง ให้ใช้เวลาทั้งชีวิตบอกถึงความดีท่านคงไม่พอ แต่ถ้าให้พูดถึงท่านแบบบ้านๆเข้าใจง่าย
ท่านเป็นผู้ชายที่มีเชื้อสายกษัตริย์ เรียนจบนอก ติดดิน รักสัตว์ เก่งดนตรี เก่งกีฬา ใจดีมีเมตตา รักเดียวใจเดียว ไม่เปลี่ยนแปลง เขียนเพลงได้ เล่นดนตรีได้หลายชนิด ถ่ายรูปเก่ง ขับเรือได้ (เรือท่านต่อเอง) เก่งวิทยาศาสตร์ พูดได้หลายภาษา เรียนเก่ง
พูดเพราะเป็นสุภาพบุรุษ แต่งตัวดี มีธรรมมะในใจ ไม่ถือตัว รักครอบครัว รักพ่อแม่ รักสังคม เป็นนักสังคมและนักพัฒนา นักประดิษฐ์ เป็นนักสำรวจ นักวางแผน นักเดินทาง เก่งทั้งศาสตร์และศิลป์ มีอารมณ์ขันและมีความโรแมนติค ท่านยังทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ เกินกว่าที่มุษย์คนนึงจะทำเพื่อคนอื่นได้
ท่านเคยสูบบุหรี่แต่เลิกบุหรี่ไปนานแล้ว (โบราณชาววังเขาสูบกันปกติ ไม่ใช่เรื่องเสื่อมเสีย แต่อย่างใด รัชกาลที่ ๕ และที่๗ก็ทรงโปรดบุหรี่ไปป์) ที้ท่านเลิกบุหรี่เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ และท่านต้องการเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พสกนิกร
ถ้าไปบอกใครว่านี้รวมอยู่ในคนๆเดียว คงจะไม่มีใครเชื่อ แต่มีพระองค์มีอยู่จริง ไม่มีใครเทียบเท่าท่านได้อีกแล้วจริงๆ
แล้วเรื่องทรงสูบพระโอสถมวนของในหลวง พระองค์ไม่เคยทรงปิดบัง และไม่เคยปฏิเสธว่าทรงเคยสูบ เพราะในอดีตการสูบบุหรี่ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจเหมือนในยุคปัจจุบันนี้
และในหลวงก็ทรงรู้โทษภัยของการสูบบุหรี่เป็นอย่างดี เพราะโทษภัยนี้ก่อให้เกิดพระโรค แก่พระญาติสนิทของในหลวง ก็คือ สมเด็จพระชนนี และสมเด็จพระพี่นางเธอฯ รวมทั้งโรคพระหทัยของพระองค์ก็มีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ เช่นกัน
--------------------
ผมขอยกส่วนหนึ่งของพระราชดำรัส เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2547 เกี่ยวกับภัยของบุหรี่ มาให้อ่านครับ
".... เราเองเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่เด็ก ๆ บุหรี่ จริงไม่มี เป็นไม้ซางแห้ง ๆ สูบ ก็เด็ก ๆ เขาเล่นสูบ แต่ทีหลังเลิก มาตอนอายุ 18 ได้สูบบุหรี่ เพราะทำไม เพราะตอนนั้นสมเด็จพระบรมราชชนนีท่านบอกว่า เด็ก ๆ ห้ามสูบบุหรี่ ๆ เด็ก ๆ หมายความว่าลูกท่าน ต้องอายุ 18 ก่อน แต่ตอนนั้นอายุ 18 และก็มาหลังสงครามพอดี พวกทหารฝรั่งเขามีกระป๋องสำหรับทหาร มีอาหารยังชีพ และมีบุหรี่ 6 มวนในนั้น คนเขาก็ให้มา เราก็ลอง เวียนหัว ตอนนั้นอายุ 18 นานๆ ไปก็เลยชินแต่ว่าบุหรี่อย่างนั้นก็หมดไป หมดสงคราม
เห็นเขาสูบบุหรี่ ก็เลยสูบตั้งแต่นั้นมาสูบบุหรี่มาจนกระทั่งทีหลังมันมีอาการหัวใจ หมอก็บอกให้เลิกสูบบุหรี่ ก็ไม่เชื่อหมอ ก็ยังอาการหัวใจต่อ จนกระทั่งหลังๆ มีบุหรี่อยู่ในห้องไม่ไหว วางไว้บนโต๊ะ ยังมีอยู่ในนั้นในซองบุหรี่มีสัก 10 มวน วางเอาไว้ไม่แตะอีกเลย เพราะว่าบอกให้เลิก เราก็เลิกทีละมวน ทีหลังเอ้ามี 2 มวน ทำไปทำมา เราก็เอาหนังสือราชการนั้นมาเอามาวางทับถุงบุหรี่ก็อยู่ใต้หนังสือราชการ ไม่รู้เดี๋ยวนี้รู้เขาคงขุดไปทิ้งหมดแล้ว แต่อยู่ใต้ที่ตั้งหนังสือนี่เข้าใจว่าประมาณปีหนึ่งไม่ได้แตะ
เพราะว่าถ้าไปแตะ ต้องไปขุดหนังสือราชการ หนังสือราชการไม่ทำราชการนะ หนังสือราชการมาก็เอามาทำ ๆ แล้วก็เอามาตั้งต่อ แล้วก็ตั้งอยู่สูง เดี๋ยวนี้หนังสือราชการด่วนที่สุด ขึ้นมาสูงเท่านี้ ตอนหลังก็มาขุดๆๆ จนหมด แต่ยังมีด่วนมาก ด่วนที่สุด ได้ทำ 3 ธันวาคม ทำเสร็จแล้ว ก็แสดงว่าช้าไปหนึ่งวันเท่านั้น แต่ด่วน ด่วนมาก นั้นมันเดือนพฤศจิกา ประมาณ 2 อาทิตย์ต้องไปขุด เดี๋ยวกลับไปต้องไปขุด ไม่งั้นกลับไปหัวหินต้องหอบไป ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้นอน ถ้าไม่นอนเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าตื่นไม่ไหว เป็นอย่างนี้เสมอ

ถึงวันเกิดนี่วันเกิดก็มีการพบปะอย่างงี้ แล้วก็จะต้องไปนอน ถ้าไม่ได้นอน ถ้าไปมหาสมาคมจะร่วงลงไปทุกครั้ง พอขึ้นสูงนี่นะ เพราะว่าขาก็ไม่ค่อยดีแล้วนะ ก็เลยต้องเตรียมตัว แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ได้มาพูดค่อยข้างจะยาวก็พอดี พอดีเวลาเหลือ 2 นาที เหลือ 2 นาที ให้ดนตรีขึ้นใหม่ ขอให้ท่านที่มาที่นี่ได้มีความแจ่มใส วันนี้รู้สึกท่านจะแจ่มใสดี ต้องแจ่มใส เพราะว่าถ้าไม่แจ่มใสทำงานไม่ได้ ต้องให้ท่านทำงานได้ แล้วก็คิดถึงงานที่จะต้องทำ ทำให้ดี ๆ ไม่ทำให้เละ ถ้าทำให้เละ ประเทศชาติก็เละ ก็ขอให้มีความสุข ความสำเร็จทุกอย่างทุกประการ"

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

จำไปจนวันตายเรา !! พระเทพฯตอน8ขวบ ถามในหลวงว่า “ข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด พอท่านตอบเท่านั้นแหละรู้เลยว่าขำหนักมาก !??

4:12:00 AM / by khara / in Hot News / with No comments /

จำไปจนวันตายเรา !! พระเทพฯตอน8ขวบ ถามในหลวงว่า “ข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด พอท่านตอบเท่านั้นแหละรู้เลยว่าขำหนักมาก !??

อ่านแล้วยิ้มตาม..ตอน8ขวบพระเทพฯถามในหลวงว่า “ข้าวสาร 1 กระสอบมีกี่เม็ด?” ในหลวงอธิบายอย่างยาวเหยียด พระเทพฯเลยทูลว่า“ไม่อยากรู้แล้ว”

หายหน้าไปนาน !! จอย ศิริลักษณ์ อดีตนางเอกตัวแม่ ล่าสุดเซี๊ยะหนักกว่าเดิม สวยอะไรเบอร์นั้น !??

8:47:00 AM / by khara / in Hot News / with No comments /

ถ้าจะถามถึงนางเอกดาวค้างฟ้าของช่อง3 นอกจาก แอน ทองประสม แล้วนั้น อีกหนึ่งชื่อที่ทุกคนจะต้องนึกถึงก็ต้องเป็น จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค สาวสวยเจ้าทบบาทรอยยิ้มทรงเสน่ห์คนนี้!!

เปลี่ยนไปแล้วจ้า สาวจอยเปลี่ยนไปแล้ว !! ถึงแม้ว่าจะลาถิ่นฐานบ้านเกิดอย่างช่อง3มาก็นานหลายปี แต่ไหงสาวจอยกลับสวยขึ้นๆ เป๊ะขึ้นๆ ที่สำคัญเซี๊ยะเว่ออออออออ และ หลังจากที่สาวคนนี้ลาวงการไปก็หายเข้ากลีบเมฆไปโดยปริยาย แต่แหมคนสวยก็คืออคนสวยรัศมีความสวยของสาวจอยก็มาแทงตาเจ๊เข้า จึงได้นำภาพล่าสุดของสาวจอยมาให้แฟนคลับชื่นชมให้หายคิดถึงกันซักนิสสสสนึง ไหนใครคิดถึงสาวน้อยค่าเฟ่บ้าง ยกมือขึ้นซิ้!!!

หวานมากอะไรมาก!

รอยยิ้มนี้ท่านได้แต่ใดมา

งานหุ่นค่ะพูดเลย

แทบเป็นลม !! แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ดีๆ มีสาวเดินมาสั่งเส้นเล็ก 1 ชาม พอหันไปถึบกับตาค้างทั้งร้าน น้ำตาไหลไม่หยุด !??

8:21:00 AM / by khara / in Hot News / with No comments /

เชื่อว่าแค่ภาพถ่ายใบเดียวที่ถูกแชร์ในเฟซบุ๊กเพียงชั่วข้ามคืน จะทำให้แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวธรรมดาๆคนหนึ่งโด่งดังไปทั่วประเทศ เป็นภาพถ่ายขณะที่ นางอัมพร โพธิ์ศรี วัย 46 เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ นายทองสุข ตรงข้ามวัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี กำลังนั่งคุกเข่าเบื้องพระพักตร์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยสีหน้าปลาบปลื้มใจยิ่ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยที่เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันหนึ่งของเดือนมิถุนายน ปี2553 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์มาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ โดยมิได้มีการแจ้งล่วงหน้า ทรงสั่งและเสวยก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณอย่างไม่ถือพระองค์เลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางความประทับใจของประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ อัมพร ยังจดจำวันนั้นได้อย่างแม่นยำ จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเข้าพรรษา คนมาทำบุญที่วัด มาเที่ยวกันที่ตลาดท่าน้ำกันเยอะมาก ร้านเราคนแน่นทุกโต๊ะเลย ประมาณ 11โมง พี่ยืนปรุงก๋วยเตี๋ยวอยู่ ก็เห็นว่ามีตำรวจมากันเต็มเลย แล้วก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาบอกว่าขอกันพื้นที่ไว้โต๊ะนึง สมเด็จพระเทพฯท่านจะเสด็จฯมาเสวยก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน เราก็ตกใจตั้งตัวไม่ทัน ตอนนั้นโต๊ะก็เป็นเหล็ก เก้าอี้พลาสติก ถ้วยชามธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษ ก็กลัวว่าจะไม่เหมาะกับพระองค์ท่าน กลัวจะไม่สะดวกสบาย

ว่าบรรยากาศของตลาดท่าน้ำวัดศาลเจ้าขณะนั้นเป็นปกติ คนเดินกันพลุกพล่าน ลูกค้าทางร้านก็นั่งก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยว เสียงพ่อค้าแม่ค้าดังโหวกเหวก “แล้วเจ้าหน้าที่คนเดิมก็มาตามให้ไปรอรับเสด็จฯ บอกให้ไปกันทั้งร้านเลย พวกเราตื่นเต้นกันใหญ่ เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯเข้ามา ภาพที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือทุกคนที่นั่งเก้าอี้ หรือเดินอยู่ จู่ๆก็ลุกพรึ่บโดยอัตโนมัติ พากันลงนั่งคุกเข่ากับพื้นพร้อมกันทั้งร้านเลย พระองค์ท่านยิ้มแย้มทักทาย ทรงรับสั่งว่า’ไม่เป็นไร ทำตัวตามปกติ ตามสบาย’ แล้วทรงสั่งเส้นเล็กแห้ง 1 ชามมาเสวยพร้อมกับข้าราชบริพารที่ติดตามมาด้วย”

จพระเทพฯ ทรงเสวยก๋วยเตี๋ยว รวมถึงพระกระยาหารที่พ่อค้าแม่ค้าตลาดน้ำศาลเจ้านำมาถวายเต็มโต๊ะ ทั้งลูกชิ้นปิ้ง ก๋วยจั๊บ ขนมหวาน ผลไม้ สายตาลูกค้าทุกคนจ้องมองเป็นตาเดียวด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ ไม่มีใครลุกจากที่นั่งเลยแม้แต่โต๊ะเดียว “ถึงขั้นเจ้าหน้าที่ต้องขอร้องว่าใครอิ่มแล้ว ลุกให้คนอื่นเขากินบ้าง แต่ใครจะลุกล่ะ ทุกคนก็อยากชื่นชมพระบารมีของพระองค์อย่างใกล้ชิดทั้งนั้น”อัมพรหัวเราะ
จาก นั้นสมเด็จพระเทพฯ ทรงเรียกอัมพรมาคุย ไถ่ถามเรื่องทั่วไป เป็นต้นว่าทองสุขคือชื่อใคร เปิดมากี่ปีแล้ว เมื่อตอบว่าทองสุขคือชื่อคุณพ่อ เปิดมานาน 55 ปีแล้ว พระองค์ทรงตรัสถามต่อว่าแล้วแม่ล่ะไปไหน ไปเรียกมาคุยหน่อย อัมพรจึงไปประคองแม่ ฮุ่ยเค็ง แซ่ตั๊ง มานั่งคุยด้วย “พระองค์ท่านตรัสให้แม่นั่งเก้าอี้ ไม่ต้องนั่งพื้น เพราะเห็นว่าอายุมากแล้ว เกรงว่าเข่าขาจะไม่ดี พระองค์ท่านใจดีมาก พูดคุยเป็นกันเอง เหมือนคนธรรมดา น้ำเสียงนุ่มนวล ไม่ถือพระองค์เลย ก่อนกลับท่านรับสั่งให้แม่ชงโอเลี้ยงถวาย 2 แก้ว แถมใส่กระติกกลับไปด้วย แล้วท่านก็รับสั่งให้คิดเงิน เราไม่อยากรับ เพราะแค่พระองค์เสด็จฯมาก็เป็นบุญของพวกเราแล้ว ท่านบอกไม่รับไม่ได้ พระองค์ทรงพระราชทานเงินใส่ซองมาให้ 5,000 บาท รับสั่งว่าเอาไว้เป็นขวัญถุง”

ไฟไหม้คร่าชีวิตลูกเธอไป แต่นึกไม่ถึงว่า 6 ปีต่อมาเธอจะได้พบลูกอีกครั้ง…

8:07:00 PM / by khara / in Hot News / with No comments /

เราคงเคยได้ยินกันมาบ้างเกี่ยวกับเรื่องราวของพี่น้องสายเลือดเดียวกันที่ พลัดพรากกันมานาน ต่างคนต่างอยู่คนละซีกโลกกลับได้มาหากันจนเจออีกครั้ง นั่นอาจเป็นเพราะการเชื่อมสายสัมพันธ์ของสายเลือดสื่อถึงกันหรือเป็นแค่เหตุ บังเอิญ แต่เรื่องราวของพวกเขาก็ทำให้เรารู้สึกตื้นตันใจไปด้วยเมื่อพวกเขามีโอกาส ได้เจอกันอีกครั้ง !
มีครอบครัวหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา หลายปีก่อนบ้านของพวกเขาได้ถูกเพลิงไหม้จนเสียหาย ในตอนนั้นหญิงสาวผู้เป็นแม่อยู่นอกตัวบ้านพอดี แต่ลูกสาววัยเพียง 10 วันนอนอยู่ในบ้าน เพลิงที่ไหม้อย่างรุนแรงทำให้เธอไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือลูกสาวออกมาจาก บ้านได้ เธอได้แต่ยืนมองด้วยหัวใจที่แตกสลาย…

ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ คุณแม่รายนี้เธอทิ้งลูกที่นอนอยู่เพื่อออกไปซื้อผ้าอ้อมเพียงครู่เดียว แต่เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านก็ไม่ทันเสียแล้ว เพลิงไหม้ลุกลามไปทั่ว เธอได้แต่ร้องไห้จนไม่เป็นอันทำอะไร แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นเมื่อพนักงานดับเพลิงเข้าไปค้นหาร่างทารกน้อย แต่พวกเขาก็ไม่พบร่างของหนูน้อยเลย ทำให้ปักใจเชื่อว่าร่างของทารกน้อยคงมอดเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว…
เธอจมอยู่กับความโศกเศร้าที่ต้องเสียลูกสาวจนเกือบทำให้เธอเสียสติไปแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป 6 ปีเธอก็เริ่มใช้ชีวิตแบบคนปกติได้อีกครั้ง

จนเมื่อไม่นานมานี้เธอไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนคนหนึ่งแล้วได้เจอกับเด็ก หญิงคนหนึ่งมีรูปร่างหน้าตาน่ารัก มีลักยิ้มเหมือนกับเธอ ทันใดที่เธอเห็นเด็กหญิงคนนี้เธอก็รู้สึกว่ามีความผูกพันธ์ แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเธอจึงรู้สึกแปลกเช่นนี้ แล้วเธอก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อรู้จากเพื่อนเธอว่าเด็กหญิงคนนี้เป็นเด็ก กำพร้า พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ เมื่อเธอได้ยินดังนั้นเธอรีบเข้าไปหาเด็กหญิงใกล้ๆ เธอค่อยๆจับเส้นผมของเด็กหญิงโดยอ้างว่าเธอหยิบเศษหมากฝรั่งออกให้แล้วเธอก็ แอบดึงเส้นผมของเด็กหญิงมา
หลังจากเธอออกมาจากงานวันเกิดเพื่อน เธอรีบมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจ DNA จากเส้นผมของเด็กหญิงคนนั้น ไม่นานผลตรวจก็ออกมาว่าเด็กหญิงมี DNA ตรงกับเธอ แท้จริงแล้วหนูน้อยคนนี้เป็นลูกสาวของเธอเอง !

หลังจากนั้นเธอก็ได้รู้ความจริงทั้งหมด ในวันนั้นที่บ้านเธอเกิดเหตุเพลิงไหม้มีญาติห่างๆของเธอมาเยี่ยมแต่จริงๆ แล้วเขาได้ขโมยลูกสาวของเธอไป โดยก่อนหน้านั้นญาติคนนี้บอกกับเธอว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร จนเมื่อญาติใจโหดคนนี้วางแผนขโมยลูกและวางเพลิงบ้านของเธอ สร้างรอยแผลอันยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตเธอ
คิดไม่ถึงจริงๆว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดจะเชื่อมโยงกันได้ขนาดนี้ คงจะมีประสาทสัมผัสพิเศษอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณแม่รายนี้รับรู้ได้ถึงความ ผูกพันธ์ของเธอและลูกสาว เหมือนกับเวลาที่ฝาแฝดอยู่ห่างกันคนละซีกโลก แต่เมื่อเกิดเหตุอะไรกับคนหนึ่ง จิตใต้สำนึกของอีกคนจะก็สามารถรับรู้ได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์จริงๆ !

เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติที่เราก็ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่รายนี้ที่ได้มีโอกาสเจอลูกสาวของตัวเองอีกครั้ง !

เกิดอะไรขึ้น! เมื่อ “ตั๊ก บงกช” โพสต์รูปและข้อความเศร้าเกี่ยวกับคนรักว่า..!!

8:41:00 AM / by khara / in Hot News / with No comments /

ไม่รู้เกิดอะไรกับนักแสดงทรงโต “ตั๊ก บงกช” เพราะล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ภาพที่ตัวเองร้องไห้ ซบกับมือ“แม่เล็ก” พร้อมข้อความแสนเศร้า ในทำนองที่ว่ารู้สึกเสียใจ เมื่อคนที่เรารัก เราแคร์ เขากลับอยากเห็นทุกข์

เมื่อได้อ่านข้อความนี้ทำให้หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องครอบครัวหรือคนสนิทใกล้ชิดหรือเปล่า
ทางทีมงานก็ขอเป็นกำลังใจให้ตั๊กผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้นะจ๊ะ

จำกันได้ไหม? อดีตพระมิตซูโอะ-แอน สุทธิรัตน์ ส่องชีวิตรักล่าสุดของพวกเขา

8:24:00 AM / by khara / in Daily News / with No comments /

ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักคนดังที่หลายคนคิดถึง สำหรับคู่รักของ นายมิตซูโอะ ชิบาฮาชิ หรือ อดีตพระมิตซูโอะ คเวสโก และ คุณ แอน สุทธิรัตน์ มุตตามระ กับเรื่องราวความรักสุดโรแมนติกของพวกเขาทั้งคู่

อดีตพระมิตซูโอะ – แอน สุทธิรัตน์ ได้ร่วมกันฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคในอดีตด้วยความรักและความใส่ใจซึ่งมีต่อกัน และชีวิตรักล่าสุดของพวกเขาทั้งคู่ก็พิสูจน์แล้วว่าพวกเขานั้นรักและจริงใจต่อกันจริง เพราะรักแท้นั้นยังมีอยู่จริงบนโลกใบนี้

คนนี้ใช่หรือไม่ !! “แฟนหนุ่ม” “จูน กอปรบุญ” น้องสาว “วีเจจ๋า” ที่เป็นปมสาเหตุเสียชีวิต

7:32:00 AM / by khara / in Hot News / with No comments /

ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับครอบครัว “วีเจจ๋า” ที่ได้ศูนย์เสียน้องสาวผู้เป็นที่รัก “จูน กอปรบุญ” เนื่องด้วยสาเหตุททที่สันนิฐานในเบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อความในจดหมายสั่งเสียลาตายของผู้เสียชีวิต

จับใจความได้ว่า ผู้ตายได้ตัดพ้อน้อยใจถึงความรักที่มีปัญหาอยู่กับแฟนหนุ่ม พร้อมกับเคยเป้นโรคซึมเศร้ามาก่อนน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นชนวนสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายคิดสั้น และตัดสินใจกระโดดตึกลงมาจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เราได้เชื่อมโยงกับภาพชายหนุ่มที่ดูจากการโพสที่ค่อนข้างสนิมสนมกันมากว่าจะใช่แฟนฟนุ่มต่างชาติที่ถูกอ้างอิงหรือไม่